ก่อนอื่น นายเกาเหลาขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อยก่อนนะครับ ปัญหา “ความล่าช้าของชัตเตอร์” หรือ Shutter lag หมายถึง ช่วงหยุด (pause) ระหว่างที่ปุ่มชัตเตอร์ถูกกดลงไปจนถึงเวลาที่ภาพถูกถ่าย พูดง่ายๆ ก็คือ ภาพที่ถ่ายได้จะเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากปุ่มชัตเตอร์กดลงไปแล้วนั่นเอง อุตส่าห์เล็งอย่างดี แต่ปรากฏว่า ไม่ได้ช็อตเด็ดอย่างที่ตั้งใจ

ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับกล้องดิจิตอลทั่วไป ซึ่งค่า Shutter lag จะค่อนข้างมาก ความจริง เพื่อนคนนี้มีพื้นฐานการถ่ายรูปที่ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งมุมกล้อง และจังหวะในการถ่าย แต่เผอิญว่า ไปเลือกซื้อกล้องดิจิตอลคอมแพค ซึ่งปรับอะไรก็ไม่ค่อยได้ แถมยังมี shutter lag ค่อนข้างมากอีกด้วย นายเกาเหลาแนะนำให้เขาเลือกเล่นเป็น Digital SLR เนื่องจากกล้องพวกนี้จะมีค่ะ shutter lag น้อยมาก แม้ว่า วันนี้กล้องดิจิตอลทั่วไปจะได้รับการพัฒนาเรื่องนี้ขึ้นมากแล้วก็ตาม แต่ก็อาจจะยังมีปัญหาเรื่อง Autofocus โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่ต้องถ่ายในที่ๆ มีแสงน้อยๆ กล้อง Digital SLR สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เนื่องจากผู้ใช้สามารถปรับแต่งด้วยแมนวลได้ ไม่ใช่ว่า ทุกอย่างจะอัตโนมัติไปหมด

กล้องดิจิตอลแบบ compact หรือ point-and-shoot ที่ใช้งานง่ายด้วยระบบออโต้ทั้งหมด ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องความล่าช้าของชัตเตอร์ ( shutter lag) ดังนั้นเวลาเลือกซื้อควรตรวจสอบสเปกตัวนี้ด้วยนะครับ

ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งดีครับ

 

สำหรับผู้ใช้กล้องดิจิตอลคอมแพค ควรจะศึกษาคู่มือด้วยว่า มันมีฟังก์ชัน หรือโหมดการทำงานที่ช่วยให้การถ่ายภาพได้อย่างเหมาะสมด้วยหรือไม่ ? เช่น อาจมี sport mode ที่ใช้สำหรับถ่ายภาพกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวที่เร็ว ซึ่งอาจช่วยให้ได้ภาพที่ตรงความต้องการมากขึ้น ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว และประการสุดท้ายในการแก้ หรือบรรเทาปัญหา shutter lag นั่นคือ เรืองของการเลือกใช้การ์ดหน่วยความจำความเร็วสูง ซึ่งจะมีราคาแพงกว่าทั่วไป ดังนั้น เพื่อนๆ ควรศึกษาคู่มือของกล้องด้วยว่า รองรับการ์ดหน่วยความจำพวกนี้ด้วยหรือไม่ ? หวังว่า คงจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ

 

  

ปัญหาของ shutter lag ทำให้ได้ภาพอย่างที่เห็นทางขวามือ