เก็บความลับในเครื่องที่ไม่ค่อยลับ ด้วย ShellCrypt

รายละเอียด :     เราจะปกป้องข้อมูลสำคัญเอาไว้ได้อย่างไร หากว่ามีคนอื่นสามารถเข้ามาใช้เครื่องของเราได้ ทางแก้คงจะหนีไม่พ้นการเข้ารหัสไฟล์นั้นเอาไว้ ShellCrypt เป็นยูทิลิตี้ที่ช่วยจัดการปัญหานี้ได้ โดยนอกจากจะเข้ารหัสไฟล์แล้วยังจะเข้าไปเปลี่ยนชื่อไฟล์เอาไว้เป็นชื่อธรรมดาเพื่อไม่ให้สังเกตเห็นได้ง่ายอีกต่างหาก ในการเข้ารหัสนั้น โปรแกรม ShellCrypt จะใช้อัลกอริทึม Blowfish ซึ่งวิธีการเข้ารหัสและซ่อนไฟล์นั้นเพียงแค่คลิ้กขวาจาก Explorer แล้วเลือก ShellCrypt / Encrypt and hide เท่านั้น โปรแกรมจะหยุดถามพาสเวิร์ด แล้วเข้ารหัสไฟล์ให้เราทันที ส่วนในการถอดรหัสเพียงแค่ดับเบิลคลิ้กไฟล์ดังกล่าวจาก Explorer หรือเลือกไฟล์แล้วคลิ้กเลือกเมนู Decrypt and unhide นอกจากนั้น ถ้ายังไม่ต้องการถอดรหัสไฟล์ แต่ต้องการทราบว่ามีไฟล์ใดบ้างที่เข้ารหัสไว้อยู่ ก็สามารถเปิดดูชื่อไฟล์ได้จาก Log ซึ่งเข้ารหัสเอาไว้เช่นกัน ทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องใช้พาสเวิร์ดในการทำงานทั้งสิ้น หากว่าไม่มีพาสเวิร์ดก็ไม่มีทางถอดรหัสออกมาได้เลย

ShellCrypt ทำงานได้ตั้งแต่วินโดวส์ 95 ไปจนถึงเอ็กซ์พี โดยในเครื่องจะต้องมีโปรแกรม Internet Explorer 3.0 หรือใหม่กว่าติดตั้งเอาไว้ด้วย การทำงานของโปรแกรมหลังจากที่เราติดตั้งโปรแกรมแล้วจะมีไดอะล็อกบ็อกซ์ให้เราปรับคอนฟิกของโปรแกรม ซึ่งส่วนสำคัญที่สุดอยู่ที่พาสเวิร์ด หลังจากที่เรากำหนดพาสเวิร์ดแล้ว พาสเวิร์ดนี้จะถูกนำไปใช้ทั้งในการเข้ารหัส, ถอดรหัส และการปรับแต่งค่าต่างๆ ของโปรแกรม ซึ่งเหตุผลที่พาสเวิร์ดเป็นเรื่องสำคัญ ก็เพราะว่าโปรแกรมจะไม่เก็บพาสเวิร์ดเอาไว้ในเครื่อง และไม่สามารถกู้คืนได้หากว่าเราลืมพาสเวิร์ด การเข้ารหัสของ ShellCrypt นั้นจะถูกจำกัดอยู่ที่ระดับ 56 บิต และเฉพาะพาสเวิร์ด 7 ตัวแรกเท่านั้นที่มีความสำคัญที่สุด



ในกรณีที่มีผู้ใช้วินโดวส์หลายคน ผู้ใช้แต่ละคนจะมีไฟล์ล็อกแยกกันโดยอิสระ โดยที่โปรแกรมจะวิเคราะห์จากชื่อในการล็อกอินเข้าสู่ระบบ ตราบใดก็ตามที่พาสเวิร์ดของผู้ใช้คนดังกล่าวยังเป็นความลับ และไม่ซ้ำกับผู้ใช้คนอื่น ไฟล์ของผู้ใช้คนนั้นก็จะไม่สามารถถูกถอดรหัสด้วยผู้ใช้คนอื่นเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วก็ยังไม่สามารถดูไฟล์ล็อกของคนอื่นๆ ด้วย และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ โปรแกรมจะไม่ยอมให้มีการ Uninstall โปรแกรมออกไปหากว่าผู้ใช้คนอื่นๆ ยังคงมีไฟล์ที่เข้ารหัสเอาไว้อยู่ภายในระบบ



คุณสามารถดาวน์โหลดได้จาก www.pcmag.com/utilities ซึ่งมีทั้งรายละเอียดการใช้งานและซอร์สโค้ดรวมไปถึงอธิบายวิธีการใช้งานและการเขียนโปรแกรมอีกด้วย

1. เพียงแค่คลิ้กขวาก็สามารถเลือกคำสั่งของ ShellCrypt ขึ้นมาใช้งานได้ทันที







2. ไฟล์ที่เข้ารหัสเอาไว้จะแสดงไอคอนเป็นรูปกุญแจ และถ้ามีการซ่อนไฟล์เอาไว้จะแสดงในรูปแบบ SC000001







3. Encryption log จะแสดงชื่อของไฟล์ที่เข้ารหัสให้ทราบ พร้อมทั้งยังแสดงชื่อไฟล์ใหม่ที่เปลี่ยนไปให้ทราบเช่นกัน







ทิปจาก www.arip.co.th